วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558


เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว - ทุ่งกะมัง





                                                                                มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตอำเภอคอนสาร เกษตรสมบูรณ์ และหนองบัวแดง มีพื้นที่ประมาณ 1,125,000 ไร่ ดูแลด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้นโดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง ได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 






ทุ่งกะมัง


 ทุ่งกระมัง เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว แหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์กินพืช เมื่อปี พ.ศ. 2526 และ พ.ศ. 2535โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ปล่อยสัตว์ป่าคืนถิ่นในบริเวณนี้ เช่น เก้ง กวาง กระจง และนกต่าง ๆ มีการจัดทำดินโป่งในบริเวณทุ่งกะมังเพื่อให้สัตว์มากินดินโป่งและเผาแปลงทุ่งหญ้าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัดเป็นอาหารของเก้ง กวางในช่วงฤดูแล้ง บนยอดเนินเหนือบริเวณทุ่งกะมัง มีพระตำหนักที่ประทับอยู่เหนืออ่างน้ำ ทุ่งกระมังเปิดให้เข้าชมเวลา 08.00–15.00 น. และจะไม่เปิดให้เข้าทัศนศึกษาตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่อุดมไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า การเดินทางเข้ามาในพื้นที่ก็เสมือนการเข้ามารบกวนธรรมชาติ


























  • ลำน้ำพรม ไหลคดเคี้ยวอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวทางด้านเหนือ ด้านทิศตะวันออกมีลำห้วยดาดหรือลำโดกเป็นห้วยสายหลักที่ทำให้น้ำพรมตอนล่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ซึ่งผันน้ำลำน้ำพรมเดิมไปผลิตกระแสไฟฟ้า ไหลออกสู่พื้นที่บริเวณลำสุ มีน้ำไหลตลอดปี บนลำน้ำพรมมีลานจันทร์ซึ่งประกอบด้วยลานหิน วังน้ำลึกที่คดเคี้ยว ดูสงบ ร่มรื่น
  • ลานจันทร์และตาดหินแดง ลานจันทร์มีลักษณะเป็นลานหินกว้างในลำน้ำพรม มีน้ำไหลผ่านตลอดปี เป็นบริเวณร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่น้อย เพราะมีป่าดิบขึ้นอยู่รอบ ๆ มีพวกมอส เฟิร์น หวาย พลู และว่านต่าง ๆ หลายชนิด ถ้าเดินเรียบไปตามลำน้ำจะพบหินสีแดง ซึ่งเป็นบริเวณที่เรียกว่า ตาดหินแดง ทั้งลานจันทร์และตาดหินแดง เหมาะสำหรับพักผ่อนร่มรื่นและสวยงาม
  • บึงแปน มีเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 900 เมตร สภาพภูมิประเทศทุ่งหญ้าคล้ายทุ่งกะมัง แต่มีลักษณะเป็นทุ่งราบเรียบและอยู่ในที่ลุ่มต่ำ มีน้ำเจิ่งนองในฤดูฝน ในฤดูแล้งมีหนองน้ำอยู่กลางทุ่ง บึงแปนตั้งอยู่กลางพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตวป่าภูเขียวค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นบริเวณที่มีสัตว์ป่าชุกชุม สังเกตได้จากมีร่องรอยด่านสัตว์มากมาย
  • น้ำตกตาดคร้อ เป็นน้ำตกสูงใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของทุ่งกะมัง ใกล้กับศูนย์พิทักษ์ป่าภูเขียวที่อำเภอหนองบัวแดง น้ำจากน้ำตกจะไหลลงสู่ลำน้ำสะพุง
น้ำตกตาดคร้อ

  • น้ำตกห้วยหวาย อยู่ห่างจากบึงแปน 6 กิโลเมตร เป็นน้ำตก 3 ชั้น สูงชั้นละ 20 เมตร ตรงบริเวณช่องเขาขาด อยู่ระหว่างเขาภูน้อย และเขาภูเขียวใหญ่
  • น้ำตกนาคราช อยู่ระหว่างทางจากศาลาพรมไปทุ่งกะมัง บริเวณกิโลเมตรที่ 11 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางในป่าอีก 300 เมตร ความกว้างของน้ำตกนาคราชประมาณ 5 เมตร มีความสูงต่างระดับถึง 3 ชั้น ชั้นแรกสูง 14 เมตร ชั้นที่ 2 สูง 10 เมตร ชั้นที่ 3 สูง 6 เมตร บริเวณน้ำตกมีว่านพญานาคราชขึ้นอยู่จำนวนมากจึงตั้งชื่อว่า “น้ำตกนาคราช”

  • ผาเทวดา เป็นภูเขาหลายเทือกติดต่อกัน ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ยอดผาสูงประมาณ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเป็นเทือกเขายาว หินผาเทวดามีสีขาวคล้ายหินปูน มีน้ำไหลผ่านเรียกว่า “ชีผุด” เป็นต้นน้ำของแม่น้ำชี มีความกว้างประมาณ 10-15 เมตร ไหลทะลุออกมาทางทิศใต้ของเขาเทวดาแล้วไหลลงชีใหญ่ที่บ้านโหล่น ลำชีจะไหลจากเหนือไปใต้ สองข้างฝั่งมีลักษณะเป็นหินกรวดก้อนเล็ก ๆ ชีผุดมีน้ำที่ใสมากถึงประมาณ 1 เมตร สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ได้แก่ กระทิง หมี เม่น กวาง และช้างป่า ตรงหุบเหวและเทือกเขาเทวดาเป็นป่าค่อนข้างแน่นทึบเรียกว่า ป่าครอบ มีลำชีไหลผ่านกลางป่าและมุดเข้าไปในเชิงเขาเรียกว่า ชีดั้นและชีผุดมีถึง 3 ชั้น ชีดั้นแห่งแรกคือ เขาถ้ำครอบ ลำน้ำไหลหายเข้าไปในถ้ำประมาณ 500 เมตร แล้วผุดออกไปประมาณ 300 เมตร จึงหายเข้าไปในเขา ไกลถึง 8 กิโลเมตร สุดท้ายหายเข้าไปในเขาไกลอีก 1 กิโลเมตร จึงผุดออกมาที่ทับกกเดื่อซึ่งอยู่ห่างจากบ้านโหล่นประมาณ 10 กิโลเมตร พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นตะเคียน ยาง พะยอม ไผ่ ไม้พื้นล่างมี หวาย ตาว สัตว์ป่า เช่น ช้าง หมี เสือ กวาง เม่น และมีนกกาฮังอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในบริเวณป่าครอบนี้มีน้ำตก 7 ชั้นอยู่บนเทือกเขาเทวดา เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวไหลลาดลงตามทางยาว แต่ละชั้นสูง 15-20 เมตร รวมทั้งสิ้นสูงประมาณ 200 เมตร กว้างประมาณ 20-25 เมตร
  • การเข้ามาทัศนศึกษาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีสองกรณีคือ หากเข้าชมแบบไป-กลับวันเดียว สามารถขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตรวจปางม่วง ค่าธรรมเนียมในการเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท นักเรียนคนละ 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท จักรยานคันละ 10 บาท จักรยานยนต์คันละ 20 บาท รถหกล้อ 100 บาท
  • กรณีพักค้างแรมต้องทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า 15–30 วัน ถึง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ตู้ ปณ. 3 ปทจ.ชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 40130 โทร. 08 4334 0043,08 0199 9212 หรือผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ 10900 สอบถามข้อมูล โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 711
การเดินทาง ไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวใช้เส้นทางเดียวกับเขื่อนจุฬาภรณ์ ก่อนถึงเขื่อน 3 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายจากด่านตรวจ (ปางม่วง) ไปยังที่ทำการเขตฯ อีก 24 กิโลเมตร

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://thai.tourismthailand.org/





ค่ายอนุรักษ์ธรรมชาติทุ่งกะมัง
วันที่ 20-22 พฤจิกายน 2556


เริ่มต้นการเดินทาง

        ระหว่างทางที่เดินทางเข้าไปทุ่งกะมังจะเห็นได้ว่ามีป่า มีต้นไม้เยอะแยะมากมายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีความชุ่มชื้นตลอดทางจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็น.
พอไปถึงก็ขนสัมภาระเข้าที่พักที่จัดรับรองไว้  แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการจองไว้ก่อนนะคะว่าว่างหรือไม่  หรือสำหรับใครที่อยากกางเต๊นท์นอนก็มีพื้นที่สำหรับกางเต๊นท์นอนที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานจัดเตรียมไว้ให้.

จากนั้นพวกเราก็มารับประทานอาหารกลางวัน และมีเจ้าหน้าที่อุทยานที่จะมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้ความรู้มาทำความรู้จัก แนะนำสถานที่ และบอกการปฏิบัติตัวเมื่อมาอยู่ที่ทุ่งกะมัง

เจ้าหน้าที่

        ตอนดึกๆอากาศหนาวจัดบวกกับช่วงที่ไปค่ายเป็นฤดูหนาวเเล้วอากาศยิ่งหนาวเข้าไปอีก แถมตอนกลางคืนเราจะรับรู้ถึงธรรมชาติรอบตัวได้อีก ทั้งเสียงนกฮุก หมาใน สัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน จะส่งเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา.
        ค่ายนี้ถือว่าเป็นค่ายดัดนิสัยพอสมควรเพราะตอนเย็นจะงดใช้ไฟฟ้า  ต้องเตรียมไฟฉายไป  ส่วนเรื่องการติดต่อกับโลกภาคนอกก็เปรียบเสมือนตัดขาดไปพอสมควร แต่มันก็ทำให้เราได้อยุ่กับธรรมชาติมากขึ้น. 



     ตอนเช้ามีกิจกรรมวิ่งออกกำลังกายจากที่พักไปที่ลานทุ่งกะมัง ออกกำลังกาย และนั่งสมาธิเพื่อสูดอากาศยามเช้า
   

     ซึ่งอากาศในตอนเช้าค่อนข้างเย็น มีหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ บรรยากาศดีอากาศบริสุทธิมาก

           






กิจกรรมท่องเที่ยงเชิงนิเวศที่ทุกกิจกรรมต้องมีเมื่อไปท่องเที่ยวในป่าก็คือ การเดินป่า
ต้องใส่ถุงกันทากด้วย เพราะทากเยอะมาก!!!!!!!





ตลอดการเดินป่ามีเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มคอยให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ทั้งเรื่องรอยสัตว์ ประโยชน์ โทษ และชนิดของต้นไม้ต่างๆ ทำให้ได้รู้เรื่องธรรมชาติเพิ่มขึ้นในเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน  อีกทั้งยังได้สัมผัสธรรมชาติแบบได้ชิด
ใกล้ชิดมากกกกกก!!
กิจการสันทนาการยามเย็น



จากใจชาวค่าย




  
เป็นกิจกรรมที่จบลงด้วยความประทับใจอย่างล้นหลาม เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาเเห่งความสุข 
เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยจิตใจแห่งการอนุรักษ์ที่เริ่มจากการศึกษา และลงมือทำ  
ขอบคุณคณะครูอาจารย์ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา
 ขอบคุณเจ้าหน้าที่พี่ๆวิทยากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่คอดูแล ให้ความรู้ เเละเป็นเสาหลักในการดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติ  เขตรักษาพันธุ์สัตร์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง



........................




waraphon srisua.
วราภรณ์  ศรีเสือ.